1. นักมายากลคืออะไร
– นักมายากล คือ คนที่เล่นบทสามารถทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ ให้คนเชื่อในเวลาสั้นๆ ดึงให้คนลืมโลกในความเป็นจริง เป็นการมอบความสุข ความเอนเตอร์เทน ซึ่งไม่มีอะไรที่มันใกล้เคียงที่สามารถดึงความรู้สึกแบบนั้นออกมาจากคนได้ แม้ว่าจะเป็นเด็ก คนแก่ หรือคุยกันคนละภาษา เราก็สามารถสื่อสารความรู้สึกนี้ได้
– มันมีความคล้ายกับภาพยนตร์ตรงที่ว่า เมื่อเวลามันผ่านไป เทคโนโลยีก็พัฒนา special effect ในหนังก็ดีขึ้นเรื่อยๆ มายากลพอเราค่อยๆ พัฒนาความรู้ กับทรัพยากรที่เรามี มันทำให้มายากลจากสมัยก่อนอาจจะต้องคลุมผ้าแต่ปัจจุบันสามารถดีดนิ้วแล้วหายไปต่อหน้าต่อตาได้ หน้าที่ของเราคือพยายามค้นหาสูตรที่ดีขึ้นเรื่อยๆ หาวิธีที่ดีที่สุด
– มายากลอาจจะดูเหมือนง่าย แต่เบื้องหลังของนักมายากลก็ลำบาก เราต้องหมกหมุ่นทดลองนู่นนี่เหมือนอยู่ในห้องแล็บ ทำยังไงให้โอกาสพลาดน้อยที่สุด นอกจากเรื่องซ้อมแล้ว ก่อนอื่นเราต้องมีการ research & developement ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างจะนานเหมือนวิทยาศาสตร์ เพื่อการหาวิธีที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่สามารถจะค้นหาออนไลน์ทั่วไป สมมุติผมอยากจะเดินลอยบนอากาศ ต้องคิดแล้วว่ามีวิธีไหนทำได้บ้างในความเป็นจริง ต้องมีอุปกรณ์อะไร ใช้วิธีแบบไหน ต้องมองหาทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ ข้อดีข้อเสียของแต่ละอัน พอเราทดลองแล้ว ก็ต้องมาลองเพื่อหา feedback
2. ประเภทของมายากล
2.1 แบ่งตามขนาด
*1. ขนาด 500 – 10,000 คน
– ใหญ่สุดจะเป็นโรงละครแบบ David Copperfield มีอารีน่า/สเตเดียม เป็น stage illusion
*2. ขนาด 100-200 คน
– คล้ายๆ stand up comedy ยืนเล่น มายากลไม่ได้ใหญ่มากจนต้องใช้กล้อง
*3. ขนาด 50 คน
– เป็นแบบ close up เห็นกันชัดๆ โดยส่วนตัวผมชอบสไตล์นี้ เพราะมันรู้สึกได้อยู่ใกล้ชิดจนเหมือนไม่สามารถซ่อนอะไรได้
*4. ขนาด 1-10 คน
– เป็น street Magic ตามถนน ระยะใกล้ตัว
– แต่ละขนาด มายากลก็จะต่างกัน ถ้าไปอยู่สเตเดียมขนาด 10,000 คน แล้วเล่นกลทำเหรียญหาย คนก็จะมองไม่เห็น อุปกรณ์กลขนาดก็ต้องใหญ่ตาม อาจจะต้องมีอุปกรณ์เสกรถ หรือหายตัว ที่ไกลๆ แล้วเรายังเห็นชัด ถ้า street magic จะเป็นอะไรก็ได้ ไม้ขีดจุดไฟเอง สเกลเล็ก ข้อแตกต่างคือพวก street magic จะเข้าถึงคนได้ง่ายกว่า บนเวทีคนอาจจะคิดว่ามีแสงเสียง มีอุปกรณ์ซ่อนพิเศษ แต่ถ้าระยะใกล้ตัว ความรู้สึก อารมณ์ของคนจะลึกกว่า
2.2 แบ่งตามประเภทการแสดง
– เช่น มายากลไพ่ มายากลเหรียญ มายากล manipulation เสกลูกบอล เสกนก ก็จะเป็นคนละหมวด หรือมายากล mentalism เป็นมายากลที่เกิดขึ้นในจิตใจของคน เช่น การอ่านใจ ทุกอย่างมันคือมายากล แค่เอาไปพรีเซนต์คนละแบบ
3. สไตล์มายากลของคุณแพทริค
– ผมชอบเล่นแบบ close up เพราะเป็นมายากลที่สามารถเล่นระยะประชิดกับคนได้เลย เราสามารถ connect กับคนได้ง่ายกว่า สามารถยืมสิ่งของคนดู เป็นอะไรที่เราสามารถทำให้มันเกิดขึ้นเวลาไหนก็ได้ที่เราต้องการ ถ้าแบบเวทีมันจะเหมือนเวลาเราไปดู musical บรรยากาศและความรู้สึกจะต่างกับการที่เราเดินไปตามถนนแล้วเจอนักดนตรีร้องเพลง จะรู้สึกถึงความรู้สึกของคนได้มากกว่าถ้าเทียบกับโรงละครใหญ่ๆ จะคนละ feeling กัน
– เดี๋ยวผมจะมีต้องไปแสดงที่ซาอุดิอาระเบียเป็นโรงละครจุถึง 800 คน และนักมายากลคนอื่นๆ จะไปแสดงด้วยก็จะมากับอุปกรณ์ชุดใหญ่ เสกตัว ตัดตัว ส่วนมายากลของเราเป็นประเภท close up อาจจะต้องใช้กล้องในการสื่อสาร เป็นโจทย์ใหม่ที่ค่อนข้าง challenge เราอยากจะเก็บประสบการณ์แล้วเอามาเปิดการแสดงที่ไทยบ้าง
– การทำโชว์มายากลที่ไทย ถ้าทำได้เราอาจจะได้เป็นคนแรก แต่ที่ยากคือมันไม่มีตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จมาก่อน เวลาไป pitch คอนเซ็ปต์ คนจัดอาจจะไม่เห็นภาพ โชว์มายากลใช้ทุนเยอะมาก เบื้องหลังใช้เทคนิคที่คนไม่เห็น เวลาคอนเสิร์ตอาจจะเห็นแสงสีเสียงชัดเจน แต่มายากลเป็นอะไรที่เราไม่เห็น เพราะเราต้องซ่อนไว้
4. ทำไมนักมายากลถึงสำคัญ
– การเล่นมายากลสอนผมหลายอย่าง
*1. ภาษา, การพรีเซนต์ เพราะการแสดงมายากลต้องพรีเซนต์ ต้องซ้อมบทพูดเหมือนนักแสดง ทำให้ภาษาเร็วเก่งขึ้น
*2. วิธีการเข้าหาคน วิธีจัดการกับผู้ชม บางคนซนมาจับของ เราก็ต้องรู้วิธีจัดการ วิธีอ่านคน คนนี้ยิ้มแย้มน่าจะเอ็นจอยง่าย คนนี้น่าจะพยายามจับผิด เรียนรู้พวกจิตวิทยา
*3. ฝึกสมาธิ ฝึกความกล้า ต้องซ้อมเยอะมาก ตั้งแต่ผมเด็กเวลาไปไหนผมมือไม่เคยว่าง
– จากคนขี้อาย พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ไม่ค่อยมีเพื่อน จนภายในหนึ่งปี เพื่อนในโรงเรียนรู้จักเรา ป๊อปปูล่าในโรงเรียน เปลี่ยนเป็นอีกคน
– สำหรับเด็ก มายากลสอนได้หลายอย่าง ทำให้เด็กมีสมาธิในการฝึกซ้อม ฝึกความกล้าในการไปแสดง เวลาเราได้เห็นคนรุ่นใหม่ๆ เล่นมายากลยิ่งทำให้เรารู้สึกมีความสุข ยิ่งเรามีนักมายากลมากขึ้น เรายิ่งพัฒนาไอเดียได้ดีขึ้น มายากลก็พัฒนาไปได้เรื่อยๆ
5. มายากลกับวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ
– นักมายากลจริงๆ แล้วเป็นกลุ่มเล็กมาก ไม่ว่าไปที่ไหนในโลกก็ตาม ถ้าเราเจอคนเล่นมายากล เราจะสามารถเป็นเพื่อนกับเขาได้เลยโดยอัตโนมัติ เพราะไม่ใช่ว่าอยู่ๆ ใครก็จะมาเล่นมายากลได้ ต้องมีความเนิร์ด หรือแปลกระดับหนึ่ง เวลาไปต่างประเทศ นักมายากลจะนัดเจอกัน นั่งคุย แชร์ไอเดีย braindstorm อยู่ได้เป็นวัน อารมณ์เหมือนเราเจอคนไทยเหมือนกันในต่างประเทศ โอกาสมันน้อย แต่นักมายากลนี่ยิ่งยากกว่าขึ้นไปอีก
– ภาพของมายากลในประเทศไทย เรายังติดภาพมายากลที่ไม่ได้ represent นักมายากล ทุกวันนี้มันพัฒนาทันสมัยค่อนข้างจะเยอะมากกว่าเมื่อก่อน หวังว่าเราจะได้เห็นมายากลในมีเดีย pop culture บ้านเรามากขึ้น ทำให้เราอาจจะเปลี่ยนมุมมอง
– บ้านเรามีความเชื่อค่อนข้างเยอะ มายากลเป็นเรื่องที่ก่ำกึ่ง ถ้าผมใช้เทคนิคมายากลสามารถปลอมตัวเป็นหมอดู ลอตเตอรี่ มีเทคนิคที่สามารถหลอกผู้คนได้ แต่จริงๆ เราไม่ได้มีเจตนาที่จะทำในด้านนั้น แต่ก็มีมิจฉาชีพบางคนที่เอาเทคนิคมายากล เคยเห็นพระที่เอาพระพุทธรูปมาลอยในมือ หรือเสกเหล็กไหลที่ใช้เทคนิคมายากลตามข่าว แต่เนื่องจากศาสนา วัฒนธรรมบ้านเรา ทำให้เรามีความเชื่อปนๆ กัน อาจจะมีส่วนนึงที่ทำให้คนเห็นมายากลเป็นเรื่องหลอกลวง
– การที่ผมได้แสดงมายากลแต่ละประเทศก็จะเห็น reaction ต่างกัน อย่างคนไทยส่วนใหญ่จะไม่ค่อยแสดงความรู้สึก แต่จะถามว่าทำยังไง ซ่อนไว้ตรงไหน อย่างคนอเมริกา จะตื่นตาตื่นใจ แต่ไม่ค่อยได้ analyze เบื้องหลังสักเท่าไหร่ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะมีเดียหรือความเชื่อที่มันปลูกฝังมาทำให้คนเรา react ไม่เหมือนกัน
– อย่างนึงที่แปลกคือ เด็กรุ่นใหม่กับเด็กรุ่นเก่าจะ react ไม่เหมือนกัน คนรุ่นใหม่ค่อนข้าง expressive มากกว่า แสดงอาการ ค่อนข้างจะเหมือนฝรั่ง อีกอย่างที่แปลกคือเด็กไทยที่เรียนต่างประเทศ มันจะมีบางอย่างอาจจะเป็นเหมือน mindset ที่มันเปลี่ยนไป พอเราไปเจอ culture อื่นๆ ทำให้เราเปิดมากขึ้น เป็นเรื่องที่น่าสนใจที่ผมได้เจอ
– ประเทศไทยก็กำลังเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะอยู่ เริ่มยอมรับหลายๆ อย่างมากขึ้น ที่สมัยก่อนอาจจะไม่ได้ยอมรับเท่าไหร่
6. คุณสมบัติที่ดีของการเป็นนักมายากล
– คนมักจะถามว่าจะต้องมือไวไหม จริงๆ แล้วมายากลบางแบบมือก็ต้องคล่องและมีวิธีการขยับมือที่ถูกต้อง แต่ก็มีมายากลแบบอื่นๆ ที่เน้นการ presentation หรือ psychology ก็ได้
– อย่างแรกเลยคือเราต้องชอบและมีความอดทน หลายคนบอกว่าอยากมาเล่นมายากลเพื่อจีบสาว สำหรับผม ผมฝึกเพราะชอบมันจริงๆ ไม่ได้มีเป้าหมายว่าจะเล่นเพื่ออยากจะรวยหรือไปจีบสาว เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมอยู่กับมันมาได้ถึงยี่สิบปี ต้องมีความชอบจริงก่อน ถ้าเราชอบไม่มากพอ เวลาซ้อมจะอ่อนล้า ทำซ้ำๆ บ่อยๆ บางวันอยู่หน้ากระจกเป็นวัน ถ่ายมือตัวเอง
– การเป็นคนช่างสังเกต เวลาเล่นมายากลโดยเฉพาะกับพวกวิศวกร เขาจะมองลึกมากกว่าคนทั่วไป ต้องวิเคราะห์ ทำให้เราเป็นได้เร็วขึ้น เห็นอะไรแล้วคิดไอเดียได้ไว
– มีสกิลการพรีเซนต์ การพูด ดาราหรือ MC บางคนที่มีสกิลในการพรีเซนต์อยู่แล้ว ซึ่งนักมายากลส่วนใหญ่ไม่ค่อยมี มายากลบางกลใช้สกิล 80% พรีเซนต์ 20% ให้มันเข้าใจ แต่บางกลก็สามารถใช้สกิล 10% พรีเซนต์ 90% แล้วแต่สไตล์การเล่น ยิ่งคนที่พูดเก่งอยู่แล้วก็จะได้เปรียบระดับนึง มายากลจะมีที่ใช้ฝีมือ 100% ใช้เวลาหลายปีในการฝึก กับมายากลที่สำเร็จรูปที่หัดได้ไม่นาน ถ้าเราพูดเก่งอยู่แล้ว สามารถเริ่มด้วยอุปกรณ์ที่มันไม่ได้ยากมากแล้วทำให้มันดูดีได้ด้วย presentation สกิลการพรีเซนต์สามารถฝึกกันได้ ผมก็พัฒนามาจากสมัยก่อนคุยไม่ได้เลย มายากลก็ฝึกให้เราพรีเซนต์ ยิ่งถ้าแสดงผ่านกล้องต้องใส่เกินไป 100% เพราะมันจะดร๊อปลงเวลาถ่ายทอด
7. คำแนะนำสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นเป็นนักมายากล
– ที่ต่างประเทศจะมีร้าน Magic Shop ในเมืองไทยสมัยก่อนก็มีที่ MBK ซึ่งพวกนี้ช่วยให้เราเข้าถึงมายากลได้ง่าย แต่ทุกวันนี้ส่วนใหญ่กลายเป็นออนไลน์หมด ไม่ได้ experience ความรู้สึกที่ได้เห็นกับตัว คอนเทนต์หลายๆ อย่างก็เริ่มมาลงใน Youtube
– คำตอบสำหรับคนยุคนี้คือเริ่มจาก Youtube เป็นมายากลขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงกัน เพราะบางคนก็บอกว่ามายากลควรเป็นความลับ ไม่ควรเอามาสอน ไม่เหมือนการเต้นหรือหนัง การเฉลยเหมือนภาพลวงตาที่เราสร้างมันหายไป แต่คนที่สอนก็บอกว่าไหนๆ ก็มีคนชอบเอามาเปิดโปงแบบไม่ถูกต้องอยู่แล้ว สู้เราสอนให้ถูกต้องเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้นักมายากลรุ่นใหม่ๆ ดีกว่า พวกเทคนิคที่มาสอนจริงๆ ก็เหมือนในหนังสือสอนมายากลสมัยก่อน หน้าที่ของเราก็คือต้องพัฒนามายากลให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ
– มีช่อง Youtube เป็นภาษาอังกฤษ ที่แนะนำคือ Chris Ramsay และ Alex Pandrea
— ถ้าภาษาไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยมี แต่มีร้าน magic shop ชื่อ 999magic เป็นรุ่นพี่ที่เป็น distributor นำเข้าพวกของใหม่ๆ เข้ามา ลองทักไป เขาสามารถแนะแนว พอเราซื้ออุปกรณ์ เขาก็จะส่งคลิปสอนเป็นภาษาไทยให้
8. ฝากส่งท้าย เกี่ยวกับมายากล
– มายากลเริ่มต้นมันอาจจะไม่ได้เป็นอาชีพได้เลย แต่สุดท้ายถ้าเราชอบอะไรแล้วทำจนมันเก่ง เราก็สามารถทำทุกอย่างเป็นอาชีพได้ ยิ่งเราค้นพบตัวเองเร็วขึ้นแค่ไหน ก็ยิ่งทำให้เรามีโอกาสได้เก่งมากกว่าคนอื่นเท่านั้น อย่ายอมแพ้ถ้าเวลาคนดูถูก ให้เอาสิ่งพวกนั้นมาเป็นแรงบันดาลใจ
– สามารถติดตามคอนเทนต์ของผมได้ผ่านทุกช่องทาง @patrickkun ทาง Instagram น่าจะอัพเดทสุด ผมก็พยายามจะทำคอนเทนต์ใหม่ๆ เรื่อยๆ หวังว่าวันนึงจะได้มีโอกาสได้ทำโชว์ที่ไทยและเอามายากลมาเผยแพร่ที่ไทยมากขึ้น
– ผมกับภรรยาเปิดสตูดิโอชื่อ Stay Studio อยู่แถวทองหล่อ เป็นการถ่ายแบบสไตล์เกาหลี มีฉากเปลี่ยนสีทุกเดือน สามารถจองเซสชั่น 20 นาที เป็นรีโมทกดถ่ายเหมือน selfie แต่เป็นกล้อง professional จัดไฟมีจอ และได้รูปปริ้นด้วย
รายละเอียด
Date: 29 Sep 2021 (21:00-22:20)
Speaker:
คุณแพทริค Patrick Kun (บุณยกร คุณวัฒนาการ)
– นักมายากลคนไทยที่ได้เข้าร่วมแข่งขัน America’s Got Talent 2021 และเคยร่วมออกแบบมายากลกับ David Copperfield
Moderator:
พี พนิต (วันนี้สรุป..มา)
ClubhouseTH #ทำไมถึงสำคัญ #นักมายากล #Magician #PatrickKun #AGT #AGT2021 #DavidCopperfield #ThaiMagician #todayinotetoevent #todayinoteto #วันนี้สรุปมา